A real king is greater than his crown. A real man is more than his clothes.
ความเป็นคนไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้า ความเป็นราชาไม่ได้อยู่ที่มงกุฎ
อย่างที่ใครต่อใครเขาพูดกัน ว่าอย่าตัดสินใครจากภายนอก
จะมีใครทำได้สักแค่ไหนกัน..
ทุกๆคนล้วนตัดสินทุกสิ่งจากภายนอก
ตัดสินจากรูปลักษณ์ที่มองเห็นเพียงครั้งแรกเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของก็ตาม
แล้วจะมีสักกี่คน ?
ที่จะยอมเสียเวลาสักนิดเพื่อลองมองให้นานขึ้น
พิจารณาให้มากขึ้น เพื่อให้รู้จักตัวตนหรือสิ่งที่เป็นอยู่ภายในนั้นจริงๆ
สวัสดีค่ะ อาทิตยาพร
แกล้วกล้า หรือที่ทุกคนเรียกกันในชื่อเล่นว่า ผึ้ง ปัจจุบันอายุ 19 ปี กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2 เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ฉันจบมัธยมปลายมาจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดขนาดใหญ่เลยทีเดียว
อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้น
ว่าอย่าตัดสินใจใครแค่จากภายนอก เพราะตัวฉันเอง ถ้ามองจากรูปลักษณ์ภายนอก
ทุกคนคงจะเห็นเหมือนๆกันคือ ผมสั้น ดูห้าวๆ ดูน่าจะเป็นคนเกเรหรือเปล่า
ซึ่งความเป็นจริงแล้ว อยากให้ทุกคนลองเสียเวลาสักนิด
ลองอ่านสิ่งที่ฉันกำลังจะบอกให้ทุกคนเข้าใจในตัวของฉัน
ว่าความจริงแล้วเป็นคนอย่างไร และทำไมคุณต้องรู้จักฉัน
Look my Like
ถ้าจะให้เล่าว่าทำไมถึงอยากให้ลองอ่านเรื่องของฉัน
เพราะเท่าที่ฉันเคยถามหลายๆคนที่รู้จักมาว่า
ครั้งแรกที่เห็นกับตอนนี้ที่เคยคุยกันแล้วแตกต่างกันไหม ?
คนส่วนมากบอกว่าต่างกัน ตอนแรกที่เห็น ดูเหมือนเป็นคหยิ่ง ไม่ค่อยพูด บางคนบอกว่าหน้าดุจนไม่กล้าเข้ามาคุยด้วย
และหลังจากที่รู้จักกันแล้วก็จะรู้ว่าฉันเป็นคนชอบฟังคนอื่นพูด
ทุกคนสามารถเข้ามาพูดเพื่อปรึกษาปัญหากับฉันได้
ถ้าในเรื่องไหนที่สามารถให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือได้
ฉันก็จะทำเต็มที่เท่าที่จสามารถทำให้ได้ ที่เหลือนั้นตนเป็นที่พึ่งแห่งตนน่าจะดีกว่า
โดยความชอบส่วนตัว
ฉันเป็นคนชอบทำอะไรที่อิสระ ทำสิ่งที่ไม่มีใครบังคับ ฉันชอบวาดรูป
วาดในสิ่งที่อยากวาด วาดไปเรื่อยๆ บางครั้งภาพเหล่านั้นไม่ได้มีความหมายอะไร
ฉันคิดว่าการวาดภาพนั้นเป็นการแสดงออกทางความคิดหรืออารมณ์ของบุคคลในช่วงนั้นๆได้
สามารถบอกได้ว่ากำลังโมโหหรือกำลังรู้สึกผ่อนคลาย เวลาว่างๆ ฉันชอบฟังเพลง
หรือถ้าพอมีเวลาก็ออกไปข้างนอก ไปเดินเล่น ไปในที่ๆไม่เคยไป
หรือถ้ามีเวลามากหน่อยฉันคงเลือกที่จะไปเที่ยวต่างจังหวัดให้จิตใจผ่อนคลาย
เพื่อที่จะได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ ยิ่งถ้าการไปเที่ยวนั้นไม่ได้เป็นการไปที่กำหนดเวลาหรือสถานที่ว่าต้องไปที่นั่นนะ
ต้องมาเจอกันเวลานี้นะ จะเป็นการท่องเที่ยวที่สบายใจมาก
“ง่าย” แต่ก็
“เลือก”
ส่วนเรื่องนิสัยนั้น
ฉันเป็นคนง่ายๆ ไปไหนก็ได้ กินอะไรก็ได้ ใครชวนไปไหนไปได้หมด แต่ถึงจะชอบออกไปข้างนอกบ่อยๆ
แต่ก็ต้องมีบางทีที่อยากอยู่คนเดียว อยู่เงียบๆ นั่งนิ่งๆ แบบไม่ได้คิดอะไรในสมอง
เชื่อว่ามีหลายคนอยากจะอยู่นิ่งๆแบบไม่คิดอะไรวุ่นวายในสมองแต่ก็ทำไม่ได้สักที
ฉันเองก็เช่นกัน มันอาจจะมีแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นที่เราไม่ได้คิดอะไร
แต่ถึงอย่างไรเมื่อตามองเห็นบางอย่าง หูได้ยินบางสิ่ง
เรื่องที่เราอยากคิดหรือไม่อยากคิดมันก็จะผุดเข้ามาในสมองของเราเอง
เส้นทางที่ต้องเดิน
ทุกคนต่างมีเส้นทางที่ต้องเดิน
ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่ขีดขึ้นมาเอง หรือเป็นเส้นทางที่ความคาดหวังตั้งใจขีดไว้ให้
เส้นทางของฉันมีทางแยกมาตั้งแต่ช่วงประมาณตอนขึ้นชั้นมัธยมต้น
แน่นอนว่าเด็กทุกคนเมื่อมีเพื่อนแล้วก็ไม่มีใครอยากจะเปลี่ยนเพื่อนใหม่
หลายคนอยากจะอยู่กับเพื่อนคนเดิม ฉันเองก็เช่นกัน
แต่เส้นทางการเรียนก็ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนโรงเรียน ตอนมัธยมต้นนี้ไม่ค่อยมีปัญหา
แต่พอมาเข้าสู่ช่วงมัธยมปลายฉันจำได้ดี ฉันเองอยากจะอยู่โรงเรียนเดิมซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนประจำจังหวัด
แต่เมื่อถึงเวลา แม่ฉันอยากให้ไปลองสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลประจำจังหวัดดูบ้าง เผื่อว่าจะติด
ผลเป็นไปดังคาด ฉันสอบติดสายวิทย์-คณิต ซึ่งฉันไม่ชอบสายการเรียนนี้เอาเสียเลย
ฉันคุยกับแม่หลายครั้งว่าอยากจะเปลี่ยนไปเรียนสายศิลป์-ภาษา
แต่แม่ก็บอกว่าให้ลองเรียนดูก่อน พอถึงวันเปิดเทอม
เปิดเทอมวันแรกพอเห็นตารางเรียนฉันก็ถอดใจแล้ว คณิตศาสตร์ 2 ชั่วโมง ชีววิทยา 2 ชั่วโมงติดๆกัน
เมื่อรู้ตารางเรียนและลองเรียนไปแล้วฉันคิดว่าฉันเรียนไม่ไหว จึงลองไปคุยกับแม่อีกครั้งหนึ่ง
แม่จึงยอมให้เปลี่ยนสายการเรียนเป็นศิลป์-ภาษาต่างประเทศ(เยอรมัน)
ซึ่งก็ทำให้ฉันพอเรียนไปไหว เพราะภาษาเยอรมันก็มีรากศัพท์มาจากภาษาอังกฤษในบางคำ
ต่อเนื่องมาจนถึงตอนขึ้นมหาวิทยาลัย ฉันก็มาสอบในรอบรับตรงของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว)
สารภาพกันตรงนี้เลยว่าตอนที่เพื่อนมาชวนไปสอบนั้นฉันยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าคืออะไร
แต่พอเพื่อนมาชวนไปสอบ เลยกลับไปลองเปิดหาชื่อมหา’ลัยในอินเตอร์เน็ตแล้วก็ลองหาคณะที่น่าสนใจแล้วก็ลองมาสอบ
เมื่อสอบไปแล้วก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะวันสอบมีคนมาสอบมากมาย
ซึ่งตัวฉันเองก็ไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไร ฉันคิดว่าคงไม่มีใครอยากไปเรียนไกลจากบ้านตัวเองสักเท่าไหร่
ฉันเองก็อยากจะเรียนในมหา’ลัยใกล้บ้าน คือมหาวิทยาลัยขอนแก่น
แต่เนื่องจาก สอบไม่ติด.. รวมทั้งผลรอบสอบตรงของมศวประกาศว่าฉันสอบติดแล้ว จึงเกิดการคุยกันครั้งใหญ่ของฉันและแม่อีกครั้ง
แม่อยากให้ฉันเป็นครูจึงเห็นด้วยที่จะให้ฉันมาเรียนที่มศว
คุยกันหลายต่อหลายครั้งฉันก็คิดได้ว่า
เส้นทางนี้มันอาจจะเป็นเส้นทางที่ฉันต้องเดินต่อไปจริงๆ
ฉันจึงยอมที่จะมาเรียนที่นี่ ที่มศวนี้ทำให้ฉันได้รับประสบการณ์ต่างๆมากมาย เจอเพื่อน เจอพี่ เจอประสบการณใหม่ๆ โดยเฉเพาะประสบการณ์ไกลบ้าน แต่ทุกอย่าง ทุกคนทำให้ฉนไม่เหงา ทำให้ฉันสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น