ทำตัวให้เป็นน้ำครึ่งแก้ว
ทำตัวให้เป็นฟองน้ำ
ทำตัวเป็นผ้าขาว
หลายคนคงเคยได้ยินคำเหล่านี้มาบ่อยครั้ง
น้ำครึ่งแก้ว ฟองน้ำ ผ้าขาว
คำเหล่านี้เปรียบให้เห็นถึงความพร้อมที่จะรับสิ่งใหม่เข้ามาในชีวิต
สิ่งนั้นอาจจะเป็นความรู้ ประสบการณ์ที่ดี หรือเหตุการณ์ร้ายๆ
เราก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งใดที่ดี ก็รับมันไว้
สิ่งไหนที่ไม่ดีก็ควรพิจารณาให้ดีแล้วนำบทเรียนเหล่านั้นมาเป็นบทเรียนให้กับการใช้ชีวิต
คนเรามีความแตกต่างกัน ทั้งด้านความคิด สังคม สิ่งแวดล้อม
สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการเรียนรู้และรับรู้สิ่งใหม่
บางคนพยายามทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว แต่อาจจะมีแผ่นพลาสติกมาปิดฝาแก้วไว้
ทำให้ไม่ได้รับความรู้ใหม่ๆได้อย่างเต็มที่ ต่างคนต่างมีวีธีเรียนรู้ของตัวเอง
บ้างชอบอ่าน บ้างชอบเขียน
บางคนเรียนรู้ด้วยการฟังหรือการดู นอกจากการฟัง พูด อ่าน เขียนที่เป็นพื้นฐานของการเรียนรู้แล้ว
ในขณะที่เรียนรู้ยังต้องสร้างบรรยากาศให้กับตัวเอง บางคนต้องเปิดเพลงเสียงดังๆ
บางคนต้องเปิดเพลงบรรเลง บางคนชอบอยู่ในพื้นที่จำกัด บางคนชอบอยู่ที่กว้างๆ เพื่อให้ตัวเองเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
My
Play My Learn
สำหรับฉันแล้วจากที่สังเกตการเรียนรู้ของตัวเอง
ฉันเรียนรู้ได้ดีด้วยการฟังและการดู
ตอนมัธยมในช่วงสอบทุกคนคงต้องลองตั้งใจอ่านหนังสือ ฉันเองก็ลองอ่าน
แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ค่อยเข้าใจ พอถึงเวลาก่อนเข้าห้องสอบ ฉันไปนั่งกับเพื่อนที่กำลังพูดคุยกันเพื่อทบทวนสิ่งที่อ่านมา
ทำให้รู้สึกว่าเข้าใจมากขึ้น
หลังจากที่รู้ว่าตนเองสามารถเรียนรู้ด้วยการฟังและพูดคุยเพื่อทบทวน
ทุกครั้งที่จะสอบ ฉันและเพื่อนๆที่ต่างคนต่างอ่านมาก็ต้องมานั่งล้อมวงเพื่อทบทวน
ถกเถียงสิ่งที่ตนเองอ่านมาเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น แต่ก็แน่นอน
ว่าจะมาพึ่งคนอื่นเพื่อที่จะฟังอย่างเดียวไม่ได้ บางครั้งเราก็ต้องใช้วิธีอ่านเพื่อเรียนรู้เอง
ในขณะที่อ่าน ฉันจะสามารถเรียนรู้สิ่งที่อ่านได้ในสถานที่กว้างๆ บรรยากาศกว้างขวาง
ไม่วุ่นวาย มองออกไปข้างหน้าและรอบกายแล้วไม่รู้สึกว่าโดนจำกัดพื้นที่ เปิดเพลงคลอได้เบาๆ และแน่นอนว่าอุปสรรคของการอ่านหนังสือคือความง่วงและความหิว ถ้าอุปสรรคนี้เกิด
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้เต็มประสิทธิภาพ ฉันจึงใช้ช่วงเวลาเช้า
หลังจากที่นอนเต็มอิ่ม อาบน้ำ
ทานอาหารให้ร่างกายพร้อมแล้วจึงเริ่มอ่านเพื่อให้เรียนรู้ได้เต็มความสามารถ
นอกจากการอ่านหนังสือเพื่อทบทวนความรู้เพื่อการสอบ
ในการเรียนในห้องเรียน ฉันเรียนรู้ได้ดีด้วยการฟังเช่นกัน
บางคนต้องใช้การจดเพื่อให้ตัวเองเข้าใจ แต่ถ้าฉันทำแบบนั้นฉันจะไม่สามารถเข้าใจ
เพราะฉันก็จะเอาแต่จดอย่างเดียว และจดแบบไม่เข้าใจ หรือเรียกว่าจดไปงั้นๆ -"-
ฉันจึงต้องนั่งฟังและคิดตามให้เข้าใจในขณะนั้น
ถ้าจะจดก็จะจดแค่หัวข้อหลักๆที่ต้องนำไปทำความเข้าใจ
บางครั้งอาจจะดูว่าฉันนั่งเฉยๆ ไม่จดลงในสมุด เลยดูเหมือนไม่ตั้งใจเรียนหรือเปล่า
แต่ความจริงแล้วที่นั่งเฉยๆนั้น ฉันกำลังนั่งฟังและทำความเข้าใจ


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น